ศศิณา อยู่ไฟ ดิลิเวอรี่ พร้อมทีมงานมืออาชีพมากกว่า 10 ปี
มีประสบการณ์ด้านการอยู่ไฟหลังคลอด โทร. 089-4421626 ยินดีให้บริการ

การดูแลสุขภาพหลังการคลอด

การคลอดบุตร ถือว่ามีความสำคัญมาก สุขภาพของผู้เป็นแม่จะทรุดโทรมจากการคลอด สรีระของผู้เป็นแม่เกือบทุกส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ผิวพรรณ ระบบการไหลเวียนของโลหิต และการขยายตัวของส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขอนามัยส่วนตัวที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นหากไม่ทำการดูแลให้ดีก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ โดยผู้ที่เป็นแม่หลายท่านจะมีสุขภาพที่อ่อนแอลงหลังการคลอด ดังนั้น การดูแลคุณแม่หลังคลอดจึงเป็นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษของไทย ได้สร้างแบบอย่างของวิธีปฎิบัตินี้ไว้ ให้คนรุ่นหลังได้ปฎิบัติตาม.

ทำไมต้องอยู่ไฟ

การอยู่ไฟ เป็นกระบวนการดูแลสตรีหลังการคลอดบุตร ซึ่งคนไทยคุ้นเคยกับคำนี้มาเป็นเวลาช้านาน เนื่องจากในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ร่างกายจะอยู่ในสภาวะที่ทุกส่วนขยายออก แม้แต่เส้นเลือดเล็กๆ ก็ขยายออกตามสภาวะการเบ่งท้องคลอด การจะทำให้สภาวะหลังการคลอดเข้าสู่สภาวะปกติได้ดีนั้น จะต้องมีกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและมีความจำเป็นต่อสุขภาพคุณแม่ให้ได้รับการปฎิบัติที่ถูกต้องโดยสมบูรณ์ ไม่ว่า ผลสรุปจะออกมาเป็นลักษณะใดก็ตาม การจะอยู่ไฟหรือไม่ จึงเป็นความสบายใจของผู้ที่ได้รับการบริการ การดูแลความงามหลังการคลอดซึ่งเป็นการฟื้นฟูด้านร่างกายและจิตใจ

คุณแม่หลังคลอด.....ควรอยู่ไฟเมื่อไหร่ ?

<> คลอดธรรมชาติ หลังคลอด 7 วัน <> คลอดผ่าตัด หลังคลอด 30 วัน

- ประโยชน์ของการอยู่ไฟหลังคลอด

- ช่วยขับน้ำคาวปลาให้ไหลดี ช่วยขับของเสีย ออกจากร่างกาย
- ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น และทำให้หน้าท้องยุบลงเร็วขึ้น
- ช่วยล้างคราบเหงื่อไคล และคราบสกปรกได้ดี
- ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
- ช่วยทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดใส
- ช่วยรมตาทำให้ไม่พร่ามัว
- ช่วยทำให้คุณแม่มีน้ำนมไหลดีขึ้น และมีปริมาณมากขื้น
- ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ฟื้นตัวเร็วขึ้น

สาระน่ารู้

Vitamins จาก ธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพ แม่ท้อง

ในหญิงตั้งครรภ์.... การได้รับวิตามิน และแร่ธาตุที่เพียงพอจะช่วย
ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และยิ่งถ้าได้วิตามิน แร่ธาตุได้มาจากแหล่งอาหารธรรมชาติอย่างผัก ผลไม้ ก็จะยิ่งดีต่อสุขภาพมาก

วิตามิน... เป็นสารอินทรีย์ที่ได้มาจากสัตว์และผัก ผลไม้ ช่วยควบคุมการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย เป็นตัวช่วยในการทำงานของเอนไซม์ ทำให้เซลล์ทำหน้าที่ได้ตามปกติ วิตามินที่ละลายในน้ำ คือ วิตามินบี และวิตามินซี วิตามินที่ละลายในไขมัน คือ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินเค.

แร่ธาตุ... เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน แต่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้ แร่ธาตุมีความสำคัญต่ออวัยวะ คือ กระดูก ฟัน กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท รวมทั้งเป็นส่วนประกอบของน้ำในเซลล์ และเลือด ประโยชน์ของ.... วิตามิน
Vitamin A … ช่วยในเรื่องการมองเห็น และทำให้มีผิวมีสุขภาพดี แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ได้แก่ แคนตาลูป แครอท มันเทศ ผักโขม แอปริคอต มะละกอ ลูกพีช มะเขือเทศ แตงโม

Vitamin B… คือ B1, B2, และ B12 ซึ่งให้สารสำคัญแตกต่างกันไป หน้าที่ที่สำคัญของวิตามินบี คือ ช่วยในเรื่องกระบวนการเผาผลาญ จัดสรรพลังงานให้กับร่างกาย และสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง วิตามินบี มีอยู่ในผัก ผลไม้ต่าง ๆ ได้แก่ ผักใบเขียว ถั่ว ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

Vitamin C… นอกจากจะช่วยต้านทานเชื้อโรคให้กับร่างกายแล้ว วิตามินซียังทำหน้าที่ดูแลรักษาเหงือก และกล้ามเนื้อ วิตามินซีจะพบได้ในหน่อไม้ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี บล็อคโคลี่ กระหล่ำปลี ดอกกระหล่ำ มะละกอ

Vitamin D…
ร่างกายต้องการวิตามินดีเพื่อสร้างกระดูก และให้ฟันแข็งแรง และวิตามินดียังทำหน้าที่ในการดูดซึมแคลเซียมให้กับร่างกาย โดยส่วนมากจะพบแหล่งที่มาของวิตามินดี ได้จากแสงแดดตอนเช้าๆ และพืชผักผลไม้

Vitamin E… ช่วยดูแลรักษาเนื้อเยื่อในร่างกาย ปกป้องตับ ปอดไม่ให้ได้รับอันตรายจากอากาศเป็นพิษ วิตามินอี จะได้มาก ผักใบเขียว ถั่วธัญญพืช (เมล็ดพืช)

Vitamin K… มีหน้าที่ในการช่วยให้เลือดจับตัวได้ดี กรณีที่ร่างกายเกิดบาดแผล และเลือดไหลทำให้เลือดหยุดได้ง่ายขึ้น วิตามินเคพบได้จากผักใบเขียว

ประโยชน์ของ....แร่ธาตุ

แร่ธาตุแคลเซียม.... ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และการทำงานของกล้ามเนื้อ แคลเซียมจะพบได้จาก ผักใบเขียวต่างๆ เช่น คะน้า บร็อกโคลี่ ผักโขม ฯลฯ

แร่ธาตุฟอสฟอรัส... จะช่วยในการรักษาสมดุลของกรดและเบสในร่างกาย และมีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์สมอง และประสาท ฟอสฟอรัสจะพบได้จาก ผักใบเขียว และถั่วเหลือง

แร่ธาตุโพแทสเซียม... จะช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อของระบบประสาท และยังควบคุมรับของเหลว ในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย โพแทสเซียมจะพบได้จาก ผักใบเขียว ส้ม ถั่ว เห็ด ข้าว กล้วย

แร่ธาตุแมกนีเซียม... ช่วยควบคุมการสร้างโปรตีน และช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท แมกนีเซียมพบได้จาก พืชสีเขียว ถั่ว งา

ว่าที่คุณแม่ท่านใด... อยากมีสุขภาพดีตลอดช่วงการตั้งครรภ์ และรวมถึงหลังคลอดด้วย ในทุกๆ มื้ออาหารควรต้องเพิ่มผัก และผลไม้เข้าไปให้มากๆ ด้วยนะคะ และอย่าแอบเขี่ยผักทิ้งหละ เพราะการทานผัก ผลไม้ นอกจากจะยิ่งช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ลูกน้อยในท้องก็จะได้รับประโยชน์จากวิตามิน แร่ธาตุ ที่คุณแม่รับประทานเข้าไปด้วยค่ะ.

เสริมกรดโฟลิก...ก่อนตั้งครรภ์กันเถอะ

ว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย... คงจะพอทราบเรื่องของกรดโฟลิกที่จะมีประโยชน์ต่อร่างกายขณะตั้งครรภ์ ทราบหรือไม่ว่าการที่ร่างกายจะได้รับประโยชน์จากกรดโฟลิก คุณควรจะเสริมกรดโฟลิกก่อนตั้งครรภ์ประมาณ 1-3 เดือน และกินต่อไปอีก 3 เดือนหลังจากตั้งครรภ์แล้ว ถึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และช่วยลดความพิการของทารกที่จะคลอดอีกด้วย แม้ความเสี่ยงเหล่านี้จะมีเพียง 1: 1,000 ของการตั้งครรภ์ก็ตาม เราสามารถได้รับกรดโฟลิกจากอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน กรดโฟลิกจะมีมากในผักใบเขียวเข้มต่างๆ ฉะนั้นในเมนูอาหารลองเลือกผักใบเขียวที่มีคุณภาพปลอดสารพิษมาปรุงเมนูอร่อยบำรุงร่างการกันนะคะ

คัดลอกมาจากนิตรสารการพัฒนาครรภ์คุณภาพและการลี้ยงดูลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด-9 ปี บันทึกคุณแม